ดูหนังโป๊

อย่าพึ่งตกใจ หากพบว่าลูกของคุณนั้น แอบดูหนังโป๊!

วันนี้หมอเด็ก ได้มาแนะนำวิธีให้คุณพ่อคุณแม่ ปรับตัวให้เข้าใจวัยฮอร์โมน โดยเด็กสมัยนี้นั้น ได้เริ่มเล่นมือถือกันตั้งกะตอนอายุน้อยๆ และไม่ว่าจเป็นความผิดพลาด หรือพลาดฟลั้งไม่ได้ตั้งใจก็ตาม จึงมีการกดเข้าไปดูสื่อลามกอนาจาร มันจึงเป็นสิ่ง ที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ ต้องเตรียมพร้อมในการรับมือ เพราะแอคชั่น ของพ่อแม่ที่มีต่อลูก เมื่อเจอลูกดูหนังโป๊นั้น สำคัญที่สุด

“จะทำอย่างไร ถ้าลูกแอบดูหนังโป๊” พญ.อัมพร สันติงามกุล สาขากุมารเวชศาสตร์ อนุสาขากุมารเวชศาสตร์พัฒนาการและพฤติกรรม โรงพยาบาลสมิติเวช ได้ ชวนมาเรียนรู้ผ่านสาระน่ารู้ ดังนี้ และนี่คงไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าเด็กวัยรุ่นจะดุสื่อลามก หรือชอบดูหนังฉากที่มีเพศสัมพันธ์กัน โดยต่อมในร่างกาย และสมอง จะผลิตฮอร์โมนเพศขึ้นมา

นั้นจึงส่งผลให้เด็กมีความสนใจ และดพฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องเพศมากขึ้น โดยความสนใจ ในเรื่องเพศของเด็กแต่ละวัยจะแบ่งได้ตามนี้ ช่วงอายุ 3 – 4 ขวบ จะเกิดคำถามมากมาย เพราะความอยากรู้อยากเห็น ไม่ว่าจะเป้นความแตกต่างทางด้านสรีระ อวัยวะที่ไม่เหมือนของตัวเอง แต่ในเด็กเล็กนั้น จะไม่คิดอะไรมาก และถือเป็นเรื่องปกติ ที่ผุ้แกครองรวมถึงครู ต้องอธิบายสอนเด็กเบื้องต้น

ดูหนังโป๊
ช่วงอายุ 5 – 12 ปี ยิ่งช่วง 5 – 8 ปี ถือเป็นจุดเริ่มต้นของคำถามและข้อสังเกตมากมาย

มักตั้งคำถามที่ซับซ้อนขึ้น เช่น หนูเกิดมาได้ยังไง ทำไมไข่ถึงเจอกับสเปิร์มได้ ด้วยความอยากรู้แบบเด็กๆ ไม่ได้คิดเป็นเรื่องอนาจาร ช่วงอายุ 9 – 12 ปี เป็นวัย Preteen เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงทางความรู้สึกและอารมณ์ อยากทดลองอยากเจอประสบการณ์จริง พ่อแม่ควรส่งเสริมให้ลูกวัยนี้เรียนรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อตนเองและคนอื่นๆ

โดยสามารถพูดคุย หรืออธิบายประเด็นต่างๆ อย่างละเอียด วัยรุ่น ช่วงอายุ 12 – 15 ปี ถือได้ว่าเข้าสู่วัยรุ่นอย่างเต็มตัว วัยนี้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงครบชัดเจน ฮอร์โมนพุ่งพล่าน มีความอยากรู้อยากลองในสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง มีอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายกว่าปกติ ซึ่งวัยนี้พ่อแม่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

เหตุผลที่เด็กวัยรุ่นดูสื่อลามก ส่วนใหญ่เป็นเพราะความสนุกอยากรู้อยากเห็น ถ้าไม่ได้ไปทำหรือแสดงออกกับใครก็ไม่ได้ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง สิ่งที่สำคัญ คือ พ่อแม่ต้องเข้าใจ เปิดโอกาสให้พูดคุยซักถามในเรื่องที่สงสัย สิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ กิจกรรมที่ได้เห็นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตที่ทำให้เราเกิดมา เป็นกระบวนการปกติของการสืบทอดเผ่าพันธุ์

แต่มนุษย์ต่างจากสัตว์อื่นตรงที่มีความยับยั้งชั่งใจ ความรับผิดชอบ รู้จักกาลเทศะ และการให้เกียรติกันในสังคม ควรแนะนำว่าการทำพฤติกรรมเหล่านี้ อย่างเปิดเผยหรือการอัดวิดีโอ รวมถึงการที่ทำให้คนอื่นได้เห็น ไม่ใช่สิ่งที่ดี มันมีผลร้ายและโทษในหลายๆ ด้าน ทั้งผู้ที่กระทำหรือผู้ที่ดู พ่อแม่ต้องอธิบายให้ลูกมีทัศนคติที่ถูกที่ควรกับเรื่องเพศ เพศสัมพันธ์ หรือสื่อลามก
“ซึ่งแนวทางที่ดีที่สุด คือ การที่พ่อแม่นำตัวเองเข้าไปอยู่และพูดคุยกับลูก ให้ลูกรู้สึกว่าเราเป็นเสมือนเพื่อนอีกคนหนึ่งที่เขาจะสามารถเชื่อ รับฟัง และขอคำปรึกษาได้ในทุกเรื่อง ซึ่งตรงนี้แนะนำว่าให้ทำให้เค้ารู้สึกตั้งแต่เด็กจะยิ่งดี พยายามหาเวลาอยู่พูดคุย แลกเปลี่ยนความเห็นกับลูก ให้ลูกได้แสดงออกหรือไม่กลัวที่จะคุยกับเราได้ทุกเรื่องตั้งแต่ยังเล็กๆ”

พ่อแม่ต้องจัดการอย่างไร เมื่อรู้ว่าลูกแอบดูสื่อลามก

เราต้องต่อยอดจากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วโดยพูดสอนเพิ่มเติม แลกเปลี่ยนความคิดว่าเค้ารู้สึกหรือได้อะไรจากสิ่งนี้ ดีหรือไม่ดีสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมของสังคมหรือไม่ และสอนให้เค้ารู้จัก ป้องกันหรือหาทางแก้ไข โดยพ่อแม่อาจลองย้อนกลับไป นึกถึงตอนตัวเองยังเป็นเด็กว่าเราผ่านความคิด ผ่านสื่อเหล่านี้มาอย่างไร

และเราปรับหรือประพฤติตัวมาอย่างไร ทำไม่เราถึงดูแลตัวเองมาได้จนถึงวันนี้ เพื่อให้ลูกได้มองเห็นทางออกหรือแนวทางการประพฤติตัวที่ถูกต้อง “ที่สำคัญ พ่อแม่ผู้ปกครองควรต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกมาตั้งแต่เด็กๆ โดยเฉพาะในยุคที่หลายๆ สิ่งเปลี่ยนแปลงไปมากอย่างสมัยนี้ พ่อแม่ต้องจัดสรรเวลาให้มี time in หรือเวลาร่วมกันให้มาก

พยายามเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิต และสามารถคุยแนะนำลูกได้ทุกเรื่อง” โดยอาจปรับตัวด้วยการเข้าถึงลูกโดยใช้สื่อ หรือเทคโนโลยีที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เช่น วิดีโอคอลคุยกับลูกหากไม่มีเวลา เพราะลูกยังคงได้เห็นสีหน้าท่าทางความรู้สึกของเรา ลูกก็จะยังคงเชื่อใจ มั่นใจและเชื่อฟังเราในที่สุด พยายามทำ work life balance หาอะไรทำด้วยกัน

เช่น เปิดดูข้อมูล หนัง สื่อต่างๆ ไปด้วยกัน แนะนำช่องทาง หรือสื่อที่นอกจากให้ความสนุกเพลิดเพลินแล้วก็ยังมีประโยชน์ แต่หากพ่อแม่ที่ไม่สนิทกับลูก พูดคุยยากอยู่แล้ว อาจจะไม่ง่ายนัก ตรงนี้อาจต้องฟังให้มาก ฟังแบบไม่ตัดสินว่าถูกหรือผิด ลองนั่งจับเข่าคุยกัน วัยรุ่นถือเป็นวัยที่มีวุฒิภาวะ พอที่จะรู้ว่าอะไรถูกอะไรควร อะไรไม่ควรทำ

แต่หากยากเกินเยียวยาจริงๆ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นอาจมีวิธีดูแลหรือช่วยรักษา ปรับแนวคิดทัศนคติของเด็กกลุ่มนี้ได้ อย่างไรก็ดี ขอให้ทุกครอบครัวได้ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด คอยเป็นเพื่อนคู่คิดให้กับเด็กๆ

ขอบคุณแหล่งที่มา : matichon.co.th

สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : uruguay-portal.com